แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ U-Life แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ U-Life แสดงบทความทั้งหมด
นมเพิ่มพลังสมอง

คอลัมน์ ส่องโรคไขสุขภาพ
เป็นที่ทราบดีกันอยู่แล้วว่า "นมสด" อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งข้อมูลจากบริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า นม 1 แก้ว มีประโยชน์มาก
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ


ในหน้าร้อน เราจะเห็นแมลงปอสองตัวบินอยู่ด้วยกัน ตัวหนึ่งบินอยู่ข้างหน้าและอีกตัวหนึ่งบินอยู่ข้างหลังเสมอ บางครั้งก็จะกัดหางของอีกฝ่าย ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ พวกมันจะบินไปแตะบนผิวน้ำราวกับว่ากำลังเล่นน้ำอยู่ การกัดหางกันนั้นถือว่าเป็นการผสมพันธุ์กันของแมลงปอ เมื่อถึงฤดูขยายพันธุ์แมลงปอตัวผู้และตัวเมียที่บินไปเป็นคู่ก็ผลัดกันกัดหางของอีกฝ่าย เมื่อผสมพันธุ์เสร็จก็จะบินไปแตะผิวน้ำ
ดินสอทำจากอะไร


ปี ค.ศ. 1564 ได้เกิดลมพายุหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งถูกลมพายุโค่นถอนราก ชาวบ้านได้พบถ่านคาร์บอนชนิดหนึ่งใต้พื้นดิน แต่เปราะหักง่ายจึงไม่เป็นที่นิยมใช้ ปี ค.ศ.1760 ได้มีนักเคมีชาวเยอรมันนำเอาถ่านคาร์บอนดังกล่าวมาบดละเอียดทำเป็นไส้ดินสอแต่ไม่ประสบผลสำเร็จนัก
ดาวินชี'คิดค้นแว่นตาอัจฉริยะก่อน'กูเกิลกลาส'

นักวิจัยของสหรัฐฯ เปิดเผยภาพของลีโอนาโอ ดาวินชี ที่มีแบบจำลองแว่นตาอัจฉริยะ คล้ายกับกูเกิลกลาส


การค้นพบครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่นายเบิร์ท ไวลด์ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลินอยส์ของสหรัฐฯ ทำการศึกษาแผนภาพของดาวินชี เพื่อหาแรงบันดาลใจในการทำวิจัย จนกระทั่งเขาได้ไปพบกับแบบแปลนที่มีลักษณะเป็นหน้าคนสวมแว่นตา ที่มีกล้องขนาดเล็กติดอยู่ด้านข้าง
Maria Sibylla Merian คือใคร?

เรามาหาความรู้จากโลโก้บนเว็บไซต์ google วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 366 ของ Maria Sibylla Merian โดย Google ก็ได้ร่วมรำลึกถึงเธอด้วยการเปลี่ยนโลโก้เป็นรูปวาดธรรมชาติ มาดูว่า Maria Sibylla Merian เป็นใครกัน?

อึ้ง! พบครูไทยติดพนันงอมแงม พาเหรดข้ามฝั่งเข้า"กาสิโน"โจ๋งครึ่ม

โครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสดศรี สฤษดิ์วงศ์ ทำผลสำรวจสถานการณ์การเล่นพนันของข้าราชการไทยในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยพบว่าข้าราชการไทย โดยเฉพาะข้าราชครูเล่นการพนันเพิ่มขึ้นสูง ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอน และสร้างปัญหาครอบครัวอย่างมาก
ดูทีวีเยอะไม่ทำให้เด็กนิสัยแย่

นักวิจัยจากสภาวิจัยทางการแพทย์ (เอ็มอาร์ซี) จากประเทศอังกฤษ วิจัยพฤติกรรมการดูทีวีของเด็กนักเรียนในอังกฤษกว่า 11,000 คน พบว่าการใช้เวลาดูทีวีหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ในแต่ละวันไม่ได้ส่งผลต่อพัฒนาการทางสังคมของเด็กแต่อย่างใด
9 เพลงที่มีจังหวะตรงตามงานวิจัยว่าจะช่วยให้คุณผอม!!

แน่นอนว่าใครที่ชื่นชอบออกกำลังกาย จำนวนไม่น้อยชอบกายบริหารพร้อมเสียงเพลง ไม่ว่าจะวิ่ง แอโรบิค หรือออกกำลังกายท่วงท่าต่างๆ ดนตรีมีส่วนช่วยให้เพลิดเพลิน
แต่มีผลวิจัยว่า ดนตรีไม่ใช่แค่สร้างความเพลิดเพลินระหว่างออกกำลังกายเท่านั้น แต่มันยังมีบทบาทช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความตื่นตัวที่จะออกกำลังกายมากขึ้นด้วย รวมทั้งมีส่วนส่งเสริมกับพละกำลังบางอย่าง ดังผลวิจัยที่มีการไปสำรวจกับหลายประเภทกีฬาที่พบว่า การฝึกฝนกีฬาขณะที่ฟังดนตรีไปด้วยมีส่วนช่วยให้ทำเวลาได้ดีขึ้น แม้แต่กีฬาอย่างว่ายน้ำ!?! ที่เปิดคลอไปกับการว่ายน้ำ ผลคือนักกีฬาสามารถทำเวลาได้เร็วขึ้นในการแตะขอบสระ
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยบรูเนลในลอนดอนระบุว่า ช่วงจังหวะความเร็ว หรือ Tempo ที่จังหวะ 125-140 บีท ของเพลงหลายเพลงมีส่วนช่วยกระตุ้นพลังในร่างกายเราให้เกิดความคึกคักขึ้นเป็นพิเศษ เพราะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนและเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกาย ซึ่งนั่นมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เราเกิดความรู้สึกอยากขยับแข้งขาออกกำลังกายได้

ฮือฮา โชว์"แหวนต้นกำเนิด""เดอะ ลอร์ด เดอะ ริง"เป็นครั้งแรก เชื่อเจ้าของลั่น"คำสาปอาถรรพ์"(ชมภาพ)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ว่า แหวนทองยุคโรมัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหวนที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่"เจอาร์อาร์ โทลเกี้ยน"เขียนนวนิยาย"เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง"ขึ้น ได้ถูกนำมาแสดงเป็นครั้งแรกในนิทรรศการที่มีขึ้นในเมืองนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศอังกฤษ

"หนังสือ" ประตูสู่มิติเข้าใจความเป็นมนุษย์ เรียนรู้เพื่อนบ้านอาเซียนผ่าน "การอ่าน"

สถานการณ์การอ่านของคนในกลุ่มประเทศอาเซียน มีความคล้ายคลึงกันประการหนึ่ง คือ ขาดโอกาสและมีอุปสรรคในการเข้าถึงหนังสือ เนื่องจากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานของประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) หรือ TK park ภายใต้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมการเรียนรู้และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นในประเทศ ได้จัดประชุมวิชาการ Thailand Conference on Reading 2013 หัวข้อ "อ่านเพื่อความเท่าเทียม" เมื่อเร็ว ๆ นี้ หวังกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมที่นำมาสู่ปัญหาของการอ่านและการเข้าถึงหนังสือดี โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมประชุมกว่า 200 คน

ยลโฉมใหม่สยามเซ็นเตอร์ มากกว่าห้องน้ำหญิงเป็นยังไง

ถือโอกาสมายลโฉม "สยามเซ็นเตอร์" ที่เพิ่งปรับใหม่ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ข่าวแว่วๆ ว่าห้องน้ำหญิงที่นี่ "ล้ำ" มาก
คนเพิ่งเคยมาถึงกับ "อึ้ง" ในความ "ล้ำ" ที่นี่สาวๆ มีมุมนั่งแต่งหน้าด้วยนะเออ

ยลโฉมใหม่สยามเซ็นเตอร์ มากกว่าห้องน้ำหญิงเป็นยังไง

ถือโอกาสมายลโฉม "สยามเซ็นเตอร์" ที่เพิ่งปรับใหม่ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ข่าวแว่วๆ ว่าห้องน้ำหญิงที่นี่ "ล้ำ" มาก
คนเพิ่งเคยมาถึงกับ "อึ้ง" ในความ "ล้ำ" ที่นี่สาวๆ มีมุมนั่งแต่งหน้าด้วยนะเออ

ภัยเงียบ... จากแป้งฝุ่นทาตัว

ทุกครั้งหลังจากอาบน้ำให้ลูกน้อย คุณแม่ยุคก่อนจะประแป้งให้ลูก เวลาลูกมีผดผื่นเปียกชื้นก็จะประแป้ง แต่คุณแม่ยุคใหม่ปัจจุบันดูจะลดความสำคัญกับแป้งฝุ่นลงไป เพราะแพทย์ต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า "แป้งทาตัวเด็กส่วนใหญ่ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กทุกวัย"
รศ.ดร.ไสยวิชญ์ วรวินิต ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีแป้ง (Starch Technology) และนักเทคโนโลยีดีเด่นของมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2549 เผยว่า "แป้งฝุ่นโดยทั่วไปทำจากสารทัลคัม ซึ่งมีชื่อทางเคมีว่า Magnesium Silicate Hydroxide เนื่องจากหินแร่ทัลคัมไม่สามารถย่อยสลายเองได้ด้วยจุลินทรีย์ตามธรรมชาติ
"หากสูดเข้าไปทีละเล็กละน้อยเป็นเวลานานๆ เกิดการสะสมในปอด โดยที่เซลล์บุผิวปอดจะดักจับแป้งไว้เป็นก้อน ทำให้มีปัญหากับการหายใจ ถ้าเป็นเด็กทารกก็อาจทำให้ปอดอักเสบ เกิดเป็นโรคเนื้องอกในปอด (Talcosis) และเสียชีวิตได้"
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น ภัยร้ายของทัลคัมคือ เมื่อสูดดมทัลคัมเข้าไปในปอดปริมาณมาก มีผลต่อปอดทำให้เกิดอาการไอ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของภูมิแพ้ เนื่องจากแป้งทัลคัมไม่สามารถย่อยสลายได้
"นักวิทยาศาสตร์พบว่า ผู้หญิงที่ใช้แป้งกับอวัยวะเพศเพื่อลดการอับชื้น มีอัตราเสี่ยงจากการจะเป็นมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้น โดยอาจเป็นไปได้ที่แป้งสามารถหลงเข้าไปในร่างกายผ่านช่องคลอด มดลูก และท่อนำไข่เข้าไปสู่ช่องท้อง"
รศ.ดร.ไสยวิชญ์บอกอีกว่า เนื่องจากความไม่ปลอดภัยในการใช้แป้งทัลคัม แพทย์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้แป้งทาตัวเด็กที่มีส่วนผสมของทัลคัม และเลือกใช้แป้งที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบธรรมชาติ อาทิ แป้งข้าวโพด รวมทั้งแป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ไทยยังพัฒนาผลิตภัณฑ์แป้งเด็กภายใต้ชื่อแบรนด์ "ไรซ์แคร์" ซึ่งมีส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้า
"เนื่องจากปลอดภัยมากกว่าแป้งทัลคัม เพราะเป็นสารอินทรีย์ย่อยสลายได้ ไม่เกิดการสะสมในปอดหรือใต้ร่มผ้า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งรังไข่" รศ.ดร.ไสยวิชญ์ทิ้งท้าย
ต่อไป เวลาซื้อแป้งคงต้องพิถีพิถันในการเลือกซื้อมากขึ้น
หน้า 25,มติชนรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 9 เมษายน 2556
อยากเป็นศาสตราจารย์ อ่านที่นี่! - "ก.พ.อ." แก้ไข เกณฑ์ คุณภาพงานวิชาการ

เว็บไซต์ "ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดํารงตําแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์
ซึ่งจากเดิมได้กำหนด ผลงานทางวิชาการรับใช้สังคม ผลงานวิจัย หรือผลงานวิชาการในลักษณะอื่น หรือเรียบเรียง ตํารา หนังสือ หรือบทความทางวิชาการ โดยมีเงื่อนไขว่าผลงานดังกล่าวจะต้องมีคุณภาพดีและลักษณะคุณภาพ ๓ องค์ประกอบ ดังนี้
(๑) ก่อให้เกิดความรู้ใหม่
(๒) มีการวิเคราะห์หรือ สังเคราะห์และ
(๓) สามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้ หรือมีผลกระทบต่อการพัฒนาชุมชน สังคมหรือประเทศ
ซึ่งทาง ก.พ.อ. พิจารณาแล้วเห็นว่า เงื่อนไขคุณภาพทั้ง ๓ องค์ประกอบดังกล่าว เทียบได้กับคุณภาพในระดับดีมาก ประกอบกับผลงานทางวิชาการบางประเภทอาจไม่สามารถมีครบทั้ง ๓ องค์ประกอบ จึงมีมติให้ยกเลิกคุณภาพท้้ง ๓ องค์ประกอบดังกล่าว
โดยให้แก้ไขเป็น "ผลงานทางวิชาการ" ประกอบด้วยผลงาน ต่อไปนี้
(๑) ผลงานแต่งหรือเรียบเรียง ตํารา หนังสือ หรือบทความทางวิชาการ ซึ่งมีคุณภาพดีและได้รับการเผยแพร่ตามเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กําหนด
(๒) ผลงานวิจัย ซึ่งมีคุณภาพดีและได้รับการเผยแพร่ตามเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กําหนด ทั้งนี้ ไม่นับงานวิจัยที่ทําเป็นส่วนของการศึกษาเพื่อรับปริญญาหรือประกาศนียบัตรใดๆ หรือ
(๓) ผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น ซึ่งมีคุณภาพดีและได้รับการเผยแพร่ ตามเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กําหนด หรือ
(๔) ผลงานวิชาการรับใช้สังคม ซึ่งมีคุณภาพดีโดยผลงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ตามภาระงานซึ่งสถาบันอุดมศึกษาหรือคณะวิชาให้ความเห็นชอบ และได้รับการเผยแพร่ตามเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กําหนด รวมทั้งได้รับการรับรองการใช้ประโยชน์ต่อสังคม โดยปรากฏผลที่สามารถประเมินได้เป็นรูปธรรม โดยประจักษ์ต่อสาธารณะ
และ ให้ยกเลิกคําจํากัดความของผลงานทางวิชาการ ลักษณะการเผยแพร่และผลงานทางวิชาการที่จําแนกตามระดับคุณภาพของบทความทางวิชาการ ตามเอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ.
ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ประวัติวันสงกรานต์ วันสงกรานต์ 2556

ประวัติความเป็นมาของวันสงกรานต์
"สงกรานต์" เป็นคำภาษาสันสกฤต แปลว่า "ผ่าน" หรือ "เคลื่อนย้ายเข้าไป" ในที่นี้หมายถึงเป็นวันที่พระอาทิตย์ ผ่านหรือเคลื่อนย้าย จากราศีมีน เข้าสู่ ราศีเมษ ในเดือนเมษายน ถือเป็นช่วงสงกรานต์หากพระอาทิตย์เคลื่อนย้าย ในช่วงเดือนอื่น ๆ ถือเป็นการเคลื่อนย้ายธรรมดา ตามปกตินั้น พระอาทิตย์จะย้ายจากราศีหนึ่งไปสู่อีกกลุ่มดาวหนึ่งเป็นประจำทุกเดือน หรือจะเรียกว่าเป็นการย้ายจากกลุ่มดาวหนึ่งไปสู่อีกกลุ่มดาวหนึ่ง ตามหลักโหราศาสตร์หรือภาษาโหร เรียกว่า"ยกขึ้นสู่" ตัวอย่างเช่น พระอาทิตย์ขึ้นสู่ราศีเมษ ก็คือการที่พระอาทิตย์ย้ายจากกลุ่มดาวราศีมีนไปสู่กลุ่มดาวราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีถัดไปนั่นเอง
โหรโบราณ ได้แบ่งท้องฟ้าออกเป็น 12 ส่วน ส่วนหนึ่ง ๆ เรียกว่าราศี ซึ่งมีราศีละ 30 องศา รวม 12 ราศี ก็เท่ากับ 360 องศาครบรอบวงกลมพอดี ตามตัวอย่างข้างล่างนี้

ราศีเมษ
เกิดระหว่างวันที่ 13 เมษายน-13 พฤษภาคม
ราศีพฤษภ
เกิดระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม - 13 มิถุนายน
ราศีเมถุน เกิดระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน -14 กรกฎาคม
ราศีกรกฎ
เกิดระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม - 16 สิงหาคม
ราศีสิงห์
เกิดระหว่างวันที่ 17สิงหาคม -16 กันยายน
ราศีกันย์
เกิดระหว่างวันที่ 17 กันยายน - 16 ตุลาคม
ราศีตุล
เกิดระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม - 16 พฤศจิกายน
ราศีพิจิก
เกิดระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม
ราศีธนู เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม - 15 มกราคม
ราศีมังกร เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม - 12 กุมภาพันธ์
ราศีกุมภ์ เกิดระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ - 13 มีนาคม
ราศีมีน
เกิดระหว่างวันที่ 14 มีนาคม - 12 เมษายน

ด้วยเหตุนี้ เมื่อสงกรานต์ แปลว่า ผ่าน หรือ เคลื่อนย้ายเข้าไป วันสงกรานต์จึงต้องมีอยู่ประจำทุกเดือน เพราะดวงอาทิตย์จะย้ายจากราศีหนึ่ง ไปสู่อีกราศีหนึ่งซึ่งอยู่ถัดไปเดือนละ 1 ครั้ง เสมอ
แต่ในวันและเวลาที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ (ตามภาษาโหร) หรือเคลื่อนย้ายจากราศีมีนเข้าไปสู่ราศีเมษ ในเดือน เมษายน (ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5) เราถือเป็นกรณีพิเศษ เรียกว่าวันมหาสงกรานต์ด้วยถือกันว่าเป็นวันและแวลาที่ตั้งต้นสู่ปีใหม่ เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ตามการคำนวณของโหรผู้รู้ทางโหราศาสตร์ เพราะในสมัยโบราณเรานับถือเดือนเมษายนเป็นเดือนแรกของปี สมัยพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ.2432 ได้กำหนดให้ใช้ วันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ซึ่งตรงกับวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ และได้ใช้เรื่อยมา สาเหตุก็เพราะสอดคล้องกับธรรมเนียมโบราณ เนื่องจาก หากนับทางจันทรคติ จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ซึ่งก็คือวันสงกรานต์หรือวันที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีนไปสู่ราศีเมษนั่นเอง
และได้มีการใช้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันปีใหม่ของไทยแต่นั้นเรื่อย มาแม้ว่าในปีต่อไปจะไม่ตรงกับวันสงกรานต์ (หมายถึงวันที่ดวงอาทิตย์ย้ายจากราศีมีน ไปสู่ราศีเมษ) ทั้งนี้เพื่อให้มีการกำหนดวันทางสุริยคติที่แน่นอนตายตัวลงไป
ต่อมาในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2483 คณะรัฐบาลของจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ได้ประกาศให้ใช้วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2484 เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับประเทศอื่น ๆ เป็นสากลทั่วโลกและใช้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นเรายังถือเอาวันที่ 14 เมษายนเป็นวันครอบครัว อีกด้วย
วันมหาสงกรานต์
เมื่อถึงเดือน 5 ตรงกับวันที่ 13 เมษายนของทุก ๆ ปีเราเรียกวันนี้ว่า วันสงกรานต์ " ประเพณีไทยเดิมถือว่าวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ธรรมเนียมไทยเราก็จะมีการเล่น รื่นเริง มีการรดน้ำดำหัวโดยเฉพาะหนุ่มๆ สาวๆ จะสนุกกันเต็มที่เล่นสาดน้ำกันโดยไม่ถือเนื้อถือตัวเลย ในชนบทหลายแห่ง มีการเล่นพื้นเมืองต่าง ๆ กัน อนึ่งวันนี้บางแห่งจะเริ่มจากวันที่ ๑๓ เมษายน และมีการเล่นสนุกสนานไปราว ๆ๑ สัปดาห์ หรือกว่านั้น แต่ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ระยะนี้จะมีการนำน้ำหอมเสื้อผ้าอาภรณ์ไปรดน้ำผู้ใหญ่
ญาติพี่น้องที่เคารพนับถือและทางศาสนาก็จัดให้มีการบายศรีพระสงฆ์สมภารเจ้าวัด
สรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เท่าที่มีตามวัดต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
กำเนิดวันสงกรานต์ มีเรื่องเล่าสืบ ๆ กันมา น่าจดจำไว้ดังข้อความจารึกวัดเชตุพน ฯ ได้กล่าวไว้ประดับความรู้ของสาธุชนทั้งหลายดังต่อไปนี้
" ....เมื่อต้นภัทรกัลป์ มีเศรษฐีคนหนึ่ง มั่งมีทรัพย์มาก แต่ไม่มีบุตร บ้านอยู่ใกล้นักเลงสุรา นักเลงสุรานั้นมีบุตร ๒ คน ผิวเนื้อดุจทอง วันหนึ่งนักเลงสุราเข้าไปในบ้านของเศรษฐี แล้วด่าเศรษฐี ด้วยถ้อยคำหยาบคายต่าง ๆ เศรษฐีได้ฟังจึงถามว่า พวกเจ้ามาพูดหยาบคายดูหมิ่นเราผู้เป็นเศรษฐีเพราะ เหตุใด พวกนักเลงสุราจึงตอบว่า ท่านมีสมบัติมากมายแต่หามีบุตรไม่ เมื่อท่านตายไปสมบัติก็จะ อันตรธานไปหมด หาประโยชน์อันใดมิได้ เพราะขาดทายาทผู้ปกครอง ข้าพเจ้ามีบุตรถึง ๒ คน และ รูปร่างงดงามเสียด้วย ข้าพเจ้าจึงดีกว่าท่าน เศรษฐีครั้นได้ฟังก็เห็นจริงด้วย จึงมีความละอายต่อนักเลง สุรายิ่งนัก จึงนึกใคร่อยากได้บุตรบ้าง จึงทำการบวงสรวงพระอาทิตย์และพระจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อขอให้มีบุตร อยู่ถึง ๓ ปี ก็มิได้มีบุตรสมดังปรารถนา

เมื่อขอบุตรจากพระอาทิตย์และพระจันทรืมิได้ดังปรารถนาแล้วอยู่มาวันหนึ่ง ถึงฤดูคิมหันต์ จิตรมาส ( เดือน ๕ ) โลกสมมุติว่าเป็นวันมหาสงกรานต์ คือ พระอาทิตย์ยกจากราศีมีนประเวสสู่ราศีเมษ คนทั้งหลายพากันเล่นนักขัตฤกษ์เป็นการรื่นเริงขึ้นปีใหม่ทั่วชมพูทวีป ขณะนั้นเศรษฐีจึงพาข้าทาสบริวาร ไปยังต้นไทรริมฝั่งแม่น้ำอันเป็นที่อยู่แห่งปักษีชาติทั้งหลาย เอาข้าวสารซาวน้ำ ๗ ครั้ง แล้วหุงบูชา รุกขพระไทรพร้อมด้วยสูปพยัญชนะอันประณีต และประโคมด้วยดุริยางค์ดนตรีต่าง ๆ ตั้งจิตอธิษฐาน ขอบุตรจากรุกขพระไทร รุกขพระไทรมีความกรุณา เหาะไปขอบุตรกับพระอินทร์ให้กับเศรษฐี
พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลเทวบุตร ลงไปปฏิสนธิในครรภ์ บิดามารดาขนานนามว่า ธรรมบาลกุมาร แล้วจึงปลูกปราสาทขึ้น ให้กุมารอยู่ใต้ต้นไทรริมสระฝั่งแม่น้ำนั้น ครั้นกุมารเจริญขึ้น ก็รู้ภาษานกแล้วเรียนจบไตรเพทเมื่ออายุได้ ๘ ขวบ และได้เป็นอาจารย์บอกมงคลการต่าง ๆ แก่มนุษย์ ชาวชมพูทวีปทั้งปวงซึ่งขณะนั้นโลกทั้งหลายนับถือท้าวมหาพรหม และกบิลพรหมองค์หนึ่งได้แสดง มงคลการแก่มนุษย์ทั้งปวง
เมื่อกบิลพรหมแจ้งเหตุที่ธรรมกุมารเป็นผู้มีชื่อเสียง เป็นที่นับถือของมนุษย์ชาวโลกทั้งหลาย จึงลงมาถามปัญหาแก่ธรรมกุมาร ๓ ข้อ ความว่า
1. เวลาเช้า สิริคือราศีอยู่ที่ไหน
2. เวลาเที่ยง สิริคือราศีอยู่ที่ไหน
3. เวลาเย็น สิริราศีอยู่ที่ไหน

และสัญญาว่า ถ้าท่านแก้ปัญหา ๓ ข้อนี้ได้เราจะตัดศีรษะเราบูชาท่าน ถ้าท่านแก้ไม่ได้ เราจะตัดศีรษะของท่านเสีย ธรรมกุมารรับสัญญา แต่ผลัดแก้ปัญหาไป ๗ วัน กบิลพรหมก็กลับไปยัง พรหมโลก
ฝ่ายธรรมบาลกุมารพิจารณาปัญหานั้นล่วงไปได้ ๖ วันแล้วยังไม่เห็นอุบายที่จะตอบปัญหาได้ จึงคิดว่าพรุ่งนี้แล้วสิหนอ เราจะต้องตายด้วยอาญาของท้าวกบิลพรหม เราหาต้องการไม่ จำจะหนีไป ซุกซ่อนตนเสียดีกว่า คิดแล้วลงจากปราสาทเที่ยวไปนอนที่ต้นตาล ๒ ต้น ซึ่งมีนกอินทรี ๒ ตนผัวเมีย ทำรังอยู่บนต้นตาลนั้น
ขณะที่ธรรมบาลกุมารนอนอยู่ใต้ต้นตาลนั้น ได้ยินเสียงนางนกอินทรีถามผัวว่า พรุ่งนี้เรา จะไปหาอาหารที่ไหน นกอินทรีผู้ผัวตอบว่า พรุ่งนี้ครบ ๗ วันที่ท้าวกบิลพรหม ถามปัญหาแก่ธรรมบาล กุมาร แต่ธรรมบาลกุมารแก้ไม่ได้ ท้าวกบิลพรหมจะตัดศีรษะเสียตามสัญญา เราทั้ง ๒ จะได้กินเนื้อมนุษย์ คือ ธรรมบาลกุมารเป็นอาหาร นางนกอินทรีจึงถามว่าท่านรู้ปัญหาหรือ ? ผู้ผัวตอบว่ารู้แล้วก็เล่าให้นาง นกอินทรีฟังตั้งแต่ต้นจนปลายว่า
1. เวลาเช้าราศีอยู่ที่ หน้า คนทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างหน้า
2. เวลาเที่ยงราศีอยู่ที่ อก คนทั้งหลายจึงเอาน้ำและแป้งกระแจะจันทร์ลูบไล้ที่อก
3. เวลาเย็นราศีอยู่ที่ เท้า คนทั้งหลายจึงเอาน้ำล้างเท้า
ธรรมบาลกุมารนอนอยู่ใต้ต้นไม้ได้ยินการสนทนาของทั้งสองก็จำได้ จึงมีความโสมนัส ปีติยินดีเป็นอันมาก แล้วจึงกลับมาสู่ปราสาทของตน
ครั้นถึงวาระเป็นคำรบ ๗ ตามสัญญา ท้าวกบิลพรหมก็ลงมาถามปัญหาทั้ง ๓ข้อตามที่นัด หมายกันไว้ ธรรมบาลกุมารก็วิสัชนาแก้ปัญหาทั้ง ๓ ข้อตามที่ได้ฟังมาจากนกอินทรีนั้น ท้าวกบิลพรหม ยอมรับว่าถูกต้องและยอมแพ้แก่ธรรมบาลกุมาร และจำต้องตัดศีรษะของตนบูชาตามที่สัญญาไว้ แต่ก่อนที่ จะตัดศีรษะ ได้ตัดเรียกธิดาทั้ง ๗ อันเป็นบาทบริจาริกาของพระอินทร์ คือ


- นางทุงษะเทวี
- นางรากษเทวี
- นางโคราคเทวี
- นางกิริณีเทวี
- นางมณฑาเทวี
- นางกิมิทาเทวี
- นางมโหธรเทวี

อันโลกสมมุติว่าเป็นองค์มหาสงกรานต์ กับทั้งเทพบรรษัทมาพร้อมกัน แล้วจึงบอกเรื่องราว ให้ทราบและตรัสว่าพระเศียรของเรานี้ ถ้าตั้งไว้บนแผ่นดินก็จะเกิดไฟไหม้ไปทั่วโลกธาตุ ถ้าจะโยนขึ้น ไปบนอากาศฝนก็จะแล้ง เจ้าทั้ง ๗ จงเอาพานมารองรับเศียรของบิดาไว้เถิด ครั้นแล้วท้าวกบิลพรหม ก็ตัดพระเศียรแค่พระศอส่งให้นางทุงษะเทวีธิดาองค์ใหญ่ในขณะนั้น โลกธาตุก็เกิดโกลาหลอลเวงยิ่งนัก

เมื่อนางทุงษะมหาสงกรานต์เอาพานรองรับพระเศียรของท้าวกบิลพรหมแล้วก็ ให้เทพบรรษัท แห่ประทักษิณ เวียนรอบเขาพระสุเมรุราช ๖๐ นาทีแล้วจึงเชิญเข้าประดิษฐานไว้ในมณฑป ณ ถ้ำคันธธุลี เขาไกรลาศ กระทำบูชาด้วยเครื่องทิพย์ต่างๆ พระวิษณุกรรมเทพบุตรก็เนรมิตโลงแก้ว อันแล้วไปด้วย แก้ว ๗ ประการ ชื่อภัควดีให้เทพธิดาและนางฟ้าแล้ว เทพยดาทั้งหลายก็นำมาซึ่งเถาฉมุนาตลงล้างน้ำ ในสระอโนดาต ๗ ครั้ง แล้วแจกกันสังเวยทั่วทุกๆ พระองค์ ครั้นได้วาระกำหนดครบ ๓๖๕ วัน โลกสมมุติว่าปีหนึ่งเป็นวันสงกรานต์นางเทพธิดาทั้ง ๗ ก็ทรงเทพพาหนะต่างๆ ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมา เชิญพระเศียรกบิลพรหมออกแห่พร้อมด้วยเทพบรรษัทแสนโกฏิ ประทักษิณเวียนรอบเขาพระสุเมรุ ราชบรรษัท ทุกๆ ปีแล้วกลับไปยังเทวโลก... "


ชื่อนางสงกรานต์
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า ธิดาท้าวกบิลพรหมมีอยู่ด้วยกัน ๗ นาง ถ้าปีใดนางสงกรานต์ตรงกับ อะไรใน ๗ วัน นางทั้ง ๗ ก็ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมารับเศียรของบิดาตนเพื่อมิให้ตกลงสู่แผ่นดิน เพราะ จะเกิดฝนแล้งไฟไหม้โลก นางทั้ง ๗ มีชื่อต่างๆ กันและแต่งกายก็แตกต่างกันออกไป ประกอบกับอาวุธ ที่ถือก็แตกต่างกันด้วย ดังนี้
วันอาทิตย์ นางสงกรานต์ชื่อ ทุงษะ ทัดดอกทับทิม เครื่องประดับปัทมราช ( แก้วทับทิม ) ภักษาหาร อุทุมพร ( ผลมะเดื่อ ) อาวุธขวาจักร ซ้ายสังข์ พาหนะครุฑ
วันจันทร์ นางสงกรานต์ชื่อ โคราคะ ทัดดอกปีบ เครื่องประดับมุกดา ภักษาหารเตละ (น้ำมัน) อาวุธขวาพระขรรค์ ซ้ายไม้เท้า พาหนะพยัคฆ์ ( เสือ )
วันอังคาร นางสงกรานต์ชื่อ รากษก ทัดดอกบัวหลวง เครื่องประดับแก้วโมรา ภักษาหาร โลหิต ( เลือด ) อาวุธขวาตรีศูล ( หลาว ๓ ง่าม ) ซ้ายธนู พาหนะวราหะ ( หมู )
วันพุธ นางสงกรานต์ชื่อ มณฑา ทัดดอกจำปา เครื่องประดับไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย อาวุธขวาเข็ม ซ้ายไม้เท้า พาหนะคัทรภา ( ลา )
วันพฤหัสบดี นางสงกรานต์ชื่อ กิริณี ทัดดอกมณฑา เครื่องประดับมรกต ภักษาหารถั่วงา อาวุธขวาขอ ซ้ายปืน พาหนะคช (ช้าง)
วันศุกร์ นางสงกรานต์ชื่อ กิทิมา ทัดดอกจงกลณี เครื่องประดับบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ อาวุธขวาพระขรรค์ ซ้ายพิณ พาหนะมหิงส์ ( ควาย )
วันเสาร์ นางสงกรานต์ชื่อ มโหธร ทัดดอกสามหาว เครื่องประดับนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย อาวุธขวาจักร ซ้ายตรี พาหนะมยุรา ( นกยูง )
ประเพณีการทำบุญในวันสงกรานต์
 แม้ เราจะถือเอาวันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีมใหม่ตามหลักสากล แต่ธรรมเนียมไทยยังให้ความสำคัญกับวันสงกรานต์อยู่ โดยถือเอาเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามแบบไทย ดังนั้นเมื่อใกล้ถึงวันสงกรานต์การตระเตรียมทำความสะอาดอาคารบ้านเรือน และเตรียมข้าวของที่จะทำบุญตักบาตร
การทำบุญตักบาตรและการสร้างกุศลด้วยการปล่อยนกปล่อยปลา
สมัย โบราณ เมื่อถึงวันสงกรานต์ประชาชนจะพากันตื่นแต่เช้ามืด เตรียมหุงข้าวต้มแกง เพื่อนำไปทำบุญที่วัด ทุกคนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่สีสันสดใส โดยเฉพาะหนุ่มสาวเพราะจะได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกันได้อย่างสะดวก แต่ก็ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่
เมื่อทำบุญตักบาตรหรือเลี้ยงพระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะมีการบังสุกุลอัฐิของบรรพบุรุ ผู้ล่วงลับเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ก่อพระเจดีย์ทราย ซึ่งเป็นการขนทรายเข้าวัดสำหรับไว้ใช้ในงานก่อสร้างโบสถ์วิหาร มีการปล่อยนกปล่อยปลาซึ่งเท่ากับเป็นการแพร่ขยายพันธ์สัตว์ให้คงอยู่ไปชั่ว ลูกชั่วหลาน และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือการสรงน้ำพระการรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ รวมไปจนถึงการเล่นสาดน้ำกันเองในหมู่หนุ่มสาว
การสรงน้ำพระพุทธรูป,การสรงน้ำพระสงฆ์
ชาวบ้านจะนำดอกไม้ธูปเทียนไปบูชา แล้วเอาน้ำอบไปประพรมที่องค์พระ เพื่อความเป็นสิริมงคล บางแห่งมีการอัญเชิญพระพุทธรูปแห่แหนไปรอบๆหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้สรงน้ำกันอย่างทั่วถึงหรือจะอัญเชิญพระพุทธรูปจาก หิ้งบูชาในบ้านมาทำพิธีสรงน้ำกันในหมู่ญาติพี่น้องก็ได้
ชาวบ้านจะได้ไปชุมนุมกันที่วัด นิมนต์พระในวัดมายังสถานที่ประกอบพิธี การรดน้ำควรรดที่มิอของท่าน ไม่ควรตักราดเหมือนกับเป็นการอาบน้ำจริง ๆ เพราะพระสงฆ์ถือเป็นเพชที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป น้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำฝนหรือน้ำสะอาดผสมน้ำอบไทย เมื่อสรงน้ำแล้วพระท่านก็จะให้ศีลให้พรเพื่อความเป็นสิริมงคล
การรดน้ำดำหัวขอพรญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือ
การ รดน้ำผู้ใหญ่ หากระทำกันเองในบ้าน ลูกหลานจะเชิญพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติผู้ใหญ่ มานั่งในที่จัดไว้ แล้วนำน้ำอบน้ำหอมผสมน้ำมารดให้ท่าน อาจรดที่มือหรือรดทั้งตัวไปเลยก็มีในระหว่างที่รดน้ำท่านก็ให้พรแก่ลูกหลาน เสร็จพิธีแล้วจึงผลัดนุ่งผ้าใหม่ที่ลูกหลานจัดเตรียมไว้ให้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ ส่วนใหญ่จะมีผ้าใหว้เช่นเสื้อผ้าและผ้าขาวม้าไปมอบให้ด้วย การรดน้ำส่วนใหญ่จะรดที่มือ ขอศีลขอพร เป็นการแสดงความเคารพผู้มีอาวุโสและผู้มีพระคุณตามธรรมเนียมอันดีของไทย บางหมู่บ้านอาจเชิญคนแก่คนเฒ่ามารวมกัน แล้วให้ลูก ๆ หลาน ๆ ทำพิธีรดน้ำขอพร ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามที่ควรช่วยกันส่งเสริมและอนุรักษ์ไว้

การเล่นสาดน้ำสำหรับหนุ่มสาว
หลัง จากทำพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระสงฆ์ และรดน้ำขอพรจากญาติผู้ใหญ่แล้ว พวกหนุ่ม ๆสาวๆ ก็จะเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งน้ำที่ใช้นำมาสาดกันนั้นต้องเป็นน้ำสะอาดผสมน้ำอบมีกลิ่นหอม เด็กบางคนไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมถึงจุดประสงค์ของการเล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์ เอาน้ำผสมสีหรือผสมเมล็ดแมงลัก แล้วนำไปสาดผู้อื่น ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง สถานที่เล่นสาดน้ำสวนใหญ่เป็นลานวัด หรือลานกว้างของหมู่บ้าน พอเหนื่อยก็จะมีขนมและอาหารเลี้ยง ซึ่งชาวบ้านจะช่วยกันเรี่ยไรออกเงินและช่วยกันทำไว้ จนถึงตอนเย็นจึงแยกย้ายกันกลับไปบ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้วมาชุมนุมกันที่ลาดวัดอีกครั้ง เพื่อร่วมการละเล่นพื้นเมือง
การละเล่นพื้นบ้านในวันสงกรานต์
การ ละเล่นพื้นบ้านหรือจะเรียกว่ากีฬาพื้นเมืองก็ได้ เป็นเกมที่สร้างความสนุกสนานสามัคคี และความใกล้ชิดผูกพันพวกหนุ่ม ๆสาว ๆ จะแบ่งกันเป็นสองฝ่าย จัดทีมเพื่อเล่นแข่งขันกับฝ่ายตรงข้าม มีผู้ใหญ่เป็นกรรมการหรือผู้ควบคุม ส่วนคนเฒ่าคนแก่ก็คอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจอยู่วงนอก
การ ละเล่นที่นิยมนำมาเล่นกันในงานสงกรานต์ มีหลายอย่าง เช่น ชักเย่อ ไม้หึ่ง งูกินหาง ช่วงชัย วิ่งเปี้ยว เขย่งแตะ หลับตาตีหม้อ มอญซ่อนผ้า สะบ้า ขี่ม้าส่งเมือง ลิงชิงหลัก ฯลฯ นอกจากนั้นมีการเล่นเพลงยาว ลำตัด รำวง ฯลฯ การประกวดนางสงกรานต์ซึ่งแต่ละกิจกรรมร่วมสร้างความสนุกสนานเป็นกันเอง หนุ่มสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดกัน ได้ศึกษาดูนิสัยใจคอ ได้มีโอกาสพูดจาโอภาปราศรัยกัน
ประเพณีการทำบุญและการละเล่นในวันสงกรานต์แต่ละท้องถิ่นอาจ มีผิดแตกต่างกันไปบ้างตามความและยุคสมัยในชนบทอาจกำหนดวันทำบุญและวันสรงน้ำ พระไม่ตรงกันในแต่ละหมู่บ้าน ด้วยเหตุนี้ พวกหนุ่ม ๆจึงมีโอกาสไปเล่นสงกรานต์ได้หลายแห่งในแต่ละปี วันสงกรานต์จึงถือเป็นประเพณีหนึ่งในหลาย ๆ ประเพณีของไทยแต่โบราณ ที่เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้เลือกคู่หรือดูอุปนิสัยใจคอกันโดยเปิดเผยโดยไม่ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ต่อสายตาผู้ใหญ่
กิจกรรมวันสงกรานต์
การทำบุญตักบาตร
ถือว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้ตัวเอง และ อุทิศส่วนกุศลนั้นแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว การทำบุญแบบนี้มักจะเตรียมไว้ล่วงหน้า นำอาหารไปตักบาตรถวายพระภิกษุที่ศาลาวัด ซึ่งจัดเป็นที่รวมสำหรับทำบุญ ในวันนี้หลังจากที่ได้ทำบุญเสร็จแล้ว ก็จะมีการก่อพระทรายอันเป็นประเพณีด้วย
การรดน้ำ เป็นการอวยพรปีใหม่ให้กันและกัน น้ำที่รดมักใช้น้ำหอมเจือด้วยน้ำธรรมดา
การสรงน้ำพระ
จะรดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด และบางที่จัด สรงน้ำพระสงฆ์ ด้วย
การรดน้ำผู้ใหญ่
คือการไปอวยพรให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ครูบาอาจารย์ ท่านผู้ใหญ่มักจะนั่งลงแล้วผู้ที่รดก็จะเอาน้ำหอมเจือกับน้ำรดที่มือท่าน ท่านจะให้ศีลให้พรผู้ที่ไปรด ถ้าเป็นพระก็จะนำผ้าสบงไปถวายให้ท่านผลัดเปลี่ยนด้วย หากเป็นฆราวาสก็จะหาผ้าถุง ผ้าขาวม้าไปให้
การดำหัว
ก็คือการรดน้ำนั่นเอง แต่เป็นคำเมืองทางภาคเหนือ การดำหัวเรียกกันเฉพาะการรดน้ำผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ ผู้สูงอายุ คือการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินไปแล้ว หรือ การขอพรปีใหม่จากผู้ใหญ่ ของที่ใช้ในการดำหัวส่วนมากมีผ้าขนหนู มะพร้าว กล้วย และ ส้มป่อย
การปล่อยนกปล่อยปลา
ถือเป็นการล้างบาปที่ทำไว้ เป็นการสะเดาะเคราะห์ร้ายให้มีแต่ความสุขความสบายในวันขึ้นปีใหม่
การนำทรายเข้าวัด
ทางภาคเหนือนิยมขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นนิมิตโชคลาภ ให้มีความสุขความเจริญ เงินทองไหลมาเทมาดุจทรายที่ขนเข้าวัด

ความสำคัญของวันสงกรานต์
- เป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามประเพณีไทย และถือเป็นวันหยุดประกอบการงานหรือธุรกิจทั่วไป
- เป็นวันทำบุญตักบาตรจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระบังสกุลกระดูกพรรพบุรุษ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ
- เป็น วันแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ ในวันนี้จะมีการไปรดน้ำดำหัวขอพรจาก พ่อแม่ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคารพนับถือ วันสงกรานต์ถือเป็น วันสูงอายุแห่งชาติ
- เป็นวันรวมญาติมิตรที่จากไปอยู่แดนไกลเพื่อประกอบภาระ หน้าที่งานอาชีพของตน เมื่อถึงวันสงกรานต์ทุกคนจะกลับมาร่วมทำบุญสร้างกุศล จึงถือเอาวันที่ 15 เมษายน ซึ่งอยู่ในช่วงสงกรานต์เป็นวันรวมญาติหรือวันครอบครัว
- เป็นวันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และส่งเสริมการละเล่นตามประเพณีไทย เช่น มีการทำบุญตักบาตร เล่นสาดน้ำ ชักเย่อ มอญซ่อนผ้า เล่นสะบ้า ฯลฯ
- เป็นวันประกอบพิธีทางศาสนา เช่น มีการทำบุญตักบาตรจัดจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ บังสุกุลกระดูกบรรพบุรุษ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ การสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระสงฆ์ ขนทรายเข้าวัด (ก่อพระเจดีย์ทราย ) รับศีล ปฏิบัติธรรมฯลฯ

สรุปความสำคัญของวันสงกรานต์
1. เป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปี
2. เป็นวันทำบุญสร้างกุศล และประกอบพิธีทางศาสนา
3. เป็นวันอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมไทย
4. เป็นวันแสดงความกตัญญูกตเวที และรำลึกถึงผู้ล่วงลับ
5. เป็นวันครอบครัว วันรวมญาติและวันผู้สูงอายุ
6. เป็นวันอนุรักษ์พันธุ์สัตว์
7. เป็นวันเลือกคู่ของหนุ่มสาว
เด็กอัจฉริยะเผยเคล็ดลับพูด-อ่านได้ 20 ภาษา

หนึ่งในทักษะที่ถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนรุ่นใหม่ในยุคโลกาภิวัฒน์ คือ ความสามารถในการสื่อสารได้หลายภาษา ช่วงนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับหนุ่มน้อยชาวนิวยอร์กผู้หนึ่ง ซึ่งสามารถพูดได้ถึง 20 ภาษาจากการเรียนรู้ไขว่คว้าด้วยตนเอง ไปดูกันว่า เขามีเคล็ดลับอย่างไร


ทิโมธี ดอเนอร์ หนุ่มน้อยวัย 17 ปี ชาวนิวยอร์ก ของสหรัฐฯผู้นี้ แม้จะไม่ได้มีความสามารถพิเศษในด้านกีฬา การแสดง หรือเป็นนักกิจกรรมตัวยง แต่ความสามารถในการสื่อสารได้มากถึง 20 ภาษา ทำให้เขากลายเป็นนักเรียนที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งของโรงเรียน


ดอเนอร์บอกว่า ภาษาต่างประเทศที่เขาสามารถพูดจาสื่อสารได้นั้นมีความแตกต่างหลากหลาย ตั้งแต่ภาษาหลักๆของโลกอย่างฝรั่งเศส//จีนกลาง//และอารบิก ไปจนถึงภาษาแปลกๆของชนเผ่าอย่างภาษาของชาวสวาฮิลี ในแอฟริกาตะวันออก หรือภาษาโอจิบเว ของชนเผ่าพื้นเมืองในอเมริกา


สำหรับภาษาต่างชาติภาษาแรกที่ดอเนอร์เริ่มฝึกฝน คือ ภาษาฮิบรู เนื่องจากเขาสนใจประวัติศาสตร์ของอิสราเอล รวมถึงเรื่องราวความขัดแย้งในตะวันออกกลาง


ดอเนอร์ กล่าวว่า เขาเรียนรู้ภาษาฮิบรู จากการฟังเพลง และจดจำเนื้อร้องในภาษานั้น เพื่อนำไปพูดคุยแบบนกแก้วนกขุนทอง จากนั้นจึงเริ่มปะติดปะต่อเนื้อเพลงเป็นประโยคใหม่ๆ และภายในเวลาเพียง 6 เดือน เขาก็สามารถสนทนากับเจ้าของภาษาได้อย่างมีรสชาติมากขึ้น


หนุ่มน้อยนิวยอร์กเกอร์เปิดเผยว่า หลังจากภาษาฮิบรู เขาเลือกเรียนภาษาอารบิกเป็นภาษาถัดไป และต่อด้วยภาษาฟาร์ซี ของอิหร่าน ซึ่งนอกจากจะพูดได้อย่างคล่องแคล้วแล้ว เขายังสามารถอ่านฟาร์ซีได้อย่างว่องไว เนื่องจากเขาเรียนรู้ภาษานี้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอิหร่านเป็นประจำ


นอกจากนี้ ด้วยความที่ดอเนอร์ อาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก เมืองใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของคนจากทุกมุมโลก จึงทำให้เขาสามารถฝึกฝนภาษาต่างชาติที่ต้องการได้ไม่ยากเย็น โดยดอเนอร์เผยเคล็ดลับว่า ส่วนใหญ่เขาใช้เวลาฝึกฝนด้วยการเดินทางไปทำความรู้จัก และพูดคุยกับผู้คนตามร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารพื้นเมืองของชาตินั้นๆ


ขณะเดียวกัน ดอเนอร์ยังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง Skype เพื่อพูดคุยกับเพื่อนต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของภาษาต่างๆ โดยเขาระบุว่า ล่าสุด เขามีเพื่อนอยู่ในลิสต์ของ Skype ทั้งหมดราว 150 คน จากทั่วทุกมุมโลก

เด็กไทยเห่อรวยทางลัด แห่เปิดพอร์ตเล่นหุ้น เข้าคอร์สติวเข้ม "วัยรุ่นพันล้าน"

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ในยุควัยรุ่นพันล้าน ปรากฏการณ์ของผู้ประสบความสำเร็จเมื่ออายุยังน้อยกำลังเป็นเทรนด์ฮิต ที่ใครๆก็อยากเป็นและตลาดหุ้นกลายเป็นโอกาสที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้กระโจนเข้าสู่การลงทุนที่ดูเหมือนจะได้เงินง่ายและประสบความสำเร็จเร็วจึงไม่แปลกที่จะเห็นเด็กมหาวิทยาลัยพากันจับกลุ่มติวคุยเรื่องหุ้นเป็นเรื่องปกติทำให้หลักสูตร
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ พาไปสำรวจเรื่องราวของการเตรียมตัวติวเข้มเรื่อง "หุ้น" ของวัยรุ่นยุคนี้กัน พบว่าการอบรมเตรียมตัวเป็นนักเก็งกำไรเล่นหุ้นเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น อย่างโครงการของตลาดหลักทรัพย์ฯที่ชื่อว่า Young Financial Star Competition หรือ YFS ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป จนถึงระดับปริญญาโท ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี ไม่จำกัดคณะวิชาและสถาบันการศึกษา โครงการนี้เริ่มมากว่า 10 ปีแล้วและมีแนวโน้มว่ามีผู้สนใจเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งยัง
มีหลักสูตรต่างๆที่อบรมแก่ผู้ลงทุนมือใหม่สำหรับบุคคลทั่วไป หรือการอบรมเรื่องการจัดการใช้และเก็บออมเงินสำหรับเด็ก อย่างหลักสูตรที่มีชื่อว่า "เงินทองเป็นของมีค่า" อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ให้ข้อมูลกับประชาชาติธุรกิจออนไลน์ว่า การลงทุนในตลาดหุ้นในขณะนี้กำลังเป็นกระแสที่คนกำลังสนใจ และมีวัยรุ่นให้ความสนใจกับการลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างหลักสูตรผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ที่เปิดอบรมสำหรับนักศึกษาชั้นปี3ก็มีผู้สนใจมากขึ้นทุกปี
ปีล่าสุดมีนักศึกษาให้ความสนใจราว5,688คนโดยหลักสูตรครบคลุมมหาวิทยาลัย90 แห่งทั่วประเทศไทย และที่เลือกเป็นนักศึกษาชั้นปี 3 ก็เพื่อให้จบไปสามารถประกอบอาชีพได้เลย โดยหลักสูตรนี้ผู้เรียนสามารถไปเป็นนักลงทุนหรือประกอบอาชีพได้เมื่อสอบไลซ์เซนผ่าน
ด้านนายภาวิช กลิ่นประทุม นักลงทุนตลาดหลักทรัพย์ กล่าวถึงเทรนด์การลงทุนตลาดหุ้นในปัจจุบันกำลังเป็นกระแสฮิต เพราะมองว่าได้เงินง่ายและเร็ว แต่นักเล่นหุ้นมือใหม่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์จะขาดทุนในระยะเริ่มแรก เพราะมักซื้อหุ้นตามข่าวหรือไม่ก็ซื้อหุ้นที่มีราคาสูงมากอยู่แล้ว แต่หากผ่านจุดนี้ไปได้ก็จะเรียนรู้และมีความชำนาญมากขึ้นเข้าใจหุ้นมากขึ้น ซึ่งจะสร้างกำไรในภายหลัง
โดยปัจจุบันนี้มีเด็กวัยรุ่นเข้ามาให้ความสนใจมากขึ้นเด็กบ้างคนอายุยังไม่ถึงก็ให้พ่อแม่เปิดพอร์ตให้หลายคนศึกษาจากหนังสือหรือเข้าอบรมหลักสูตรต่างๆและหลายสำนักพิมพ์ที่เคยผลิตหนังสือในแนวการลงทุนก็หันมาทำการพัฒนาองค์กรให้ครบวงจรด้านการลงทุนที่มีทั้งหนังสือและคอร์สอบรมควารู้เรื่องหุ้นตั้งแต่ความรู้พื้นฐานไปถึงเทคนิคต่างๆถึงอย่างไรก็ตามการศึกษาพร้อมกับลงมือทำไปด้วยจะทำให้เข้าใจมากขึ้นนายภาวิชกล่าว
เมื่อเทียบความสำเร็จผู้เล่นหุ้นระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่มีโอกาสสำเร็จมากกว่าเด็กแต่การเริ่มลงทุนตั้งแต่เด็กเป็นเรื่องดี ผมสนับสนุนให้เริ่มตั้งแต่เด็กเพราะเด็กมีโอกาสแก้ตัวได้ มีตัวอย่างเคสคุณลุงคนหนึ่งที่เพิ่งเกษียรแล้วนำเงินที่เก็บมาเล่นหุ้นผ่านไป 6 เดือน เงินเก็บของคุณก็ลดลงไปเกือบครึ่ง ซึ่งช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ แต่ถ้ายังเด็กอยู่ก็มีโอกาสล้มได้หลายครั้ง เหมือนการปั้นจักรยาน ไม่มีใครปั้นแล้วไม่เคยล้มแต่เมื่อปั่นเยอะๆก็จะมีประสบกาณ์ว่าควรปั่นอย่างไรไม่ให้ล้ม และถ้าให้คนแก่กับเด็กมาหัดจักรยานพร้อมกัน การหัดปั้นในวัยเด็กเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเพราะเมื่อล้มก็ลุกขึ้นมาปั้นใหม่ได้แต่ถ้าเป็นคนแก่ล้มไปก็มีความเสี่ยงบาดเจ็บมากกว่าเด็กและฟื้นตัวยากกว่าเด็ก
สำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ถามว่ารวยไหม "ผมบอกเลยว่า ถ้าใครอยู่ในการลงทุนนี้เกิน 10 ปี ต้องรวยแน่"
นายภาวิชแนะนำผู้ที่สนใจลงทุนด้านตลาดหลักทรัพย์ว่า "สำหรับมือใหม่ควรศึกษาหาข้อมูลและเปิดใจยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงข้อบกพร่องเหล่านั้นและควรเตรียมใจว่าระยะแรกจะมีโอกาสขาดทุนสูงเพราะการเล่นหุ้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดต้องอาศัยประสบการณ์"
หนึ่งในแหล่งข้อมูลที่ผปู้ลงทุนได้เลือกศึกษาคือหนังสือประเภทธุรกิจโดยประชาชาติธุรกิจได้ทำการสำรวจและสัมภาษณ์ร้านหนังสือยักษ์ใหญ่ดังอย่าง "บีทูเอส" และ "ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์"
โดยทางบริษัทบีทูเอสให้สัมภาษณ์ถึงหนังสือที่ขายดีในร้านเป็นหนังสือประเภทธุรกิจและหัวข้อที่มีคนสนใจมากเป็นคือเทคนิคเล่นหุ้นสำหรับสำนักพิมพ์ที่ขายดีที่สุดเป็นของ′สต๊อกทูมอร์โรว์′รองลงมาเป็นของสำนักพิมพ์′Think Beyond′ ที่ออกมาเป็นซีรี่ย์(เรื่องชุด) ส่วนนักเขียนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ′นายภาวิทย์ กลิ่นประทุม′
ทั้งนี้หนังสือหุ้นมีระดับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะปัจจุบันที่เติบโตมากขึ้นส่วนหนังสือการลงทุนที่เพิ่งเริ่มเป็นที่นิยมในปัจจุบันคือการลงทุนด้านทองคำที่ได้รับความนิยมหลังจากทองราคาขึ้นซึ่งผู้อ่านหนังสือประเภทนี้มีอายุตั้งแต่25-60ปี
ส่วนทางด้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ให้สัมภาษณ์ประชาชาติธุรกิจโดย นายศรีนวล ก้อนศิลา ผู้ช่วยผู้อำนวยการซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ด้านการตลาดและสินค้า ว่า หนังสือขายดีตามมูลค่าการขายโดยมีหนังสือด้านบริหารธุรกิจติดอันดับ 4 และใน 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายในหมวดนี้ เป็นหนังสือด้านหุ้น และการลงทุนธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเทคนิคการเล่นหุ้นและหุ้นสำหรับมือใหม่เป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ส่วนนักเขียนที่ขายดีที่สุดในประเภทนี้คือ นายภาวิทย์ กลิ่นประทุม
โดยกลุ่มผู้อ่านมีตั้งแต่ระดับนักศึกษาไปถึงวัยทำงาน และเป็นที่น่าสังเกตว่า มีการบรรยายเรื่องหุ้นในสถาบันระดับอุดมศึกษามากขึ้นและได้รับความสนใจจากนักศึกษาไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นักศึกษาที่สนใจการอบรมเรื่องหุ้นแต่บุคคลในวัยทำงานปัจจุบันก็นิยมศึกษาและเล่นหุ้นเป็นงานอดิเรกเช่นกัน
นายศรีนวลมองแนวโน้มยอดการขายของหนังสือการลงทุนหุ้นยังมีแนวโน้มดีมากอยู่และเชื่อว่าจะมีหนังสือใหม่ทยอยส่งออกมาวางตลาดอย่างต่อเนื่องซึ่งน่าจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้หนังสือกลุ่มธุรกิจที่ขายดีรองลงมาคือหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจขนาดเล็ก
ประชาชาติธุรกิจได้สัมภาษณ์นักลงทุนรุ่นเล็กอย่าง นายพรคง ปัญญางาม อายุ 23 ปี นักศึกษาปริญญาโทชั้นปีที่ 1 หลักสูตรควบตรีโททางบัญชีและบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภท SET Star Investment Planner ที่สุดแห่งนักวางแผนการลงทุน บนเวทีแข่งขัน Young Financial Star Competition 2012 ได้ให้สัมภาษณ์ประชาชาติธุรกิจว่า ได้สนใจการลงทุนในตลาดหุ้นเพราะตรงกับสายที่เรียนมา และมองว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้สร้างรายได้มากเพื่อจะเกษียณได้เร็ว เริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 21 หรือเมื่อ 2ปีที่แล้ว ใช้เวลาในการศึกษา 1 เดือน หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือเล่นจริงด้วยเงินของตัวเอง
เงินที่ใช้ลงทุนก็เป็นหลักหมื่นที่ใช้เวลาน้อยในการศึกษาเพราะเห็นว่าการลงมือจริงจะทำให้เราเข้าใจและอยู่ในความสนใจเรามากกว่าก็มีปรึกษาพ่อแม่บ้างแต่ถ้าเกี่ยวกับข้อมูลการลงทุนก็จะปรึกษาเพื่อนเพราะเขาเล่นหุ้นมาตั้งแต่ม.6จึงมีข้อมูลเยอะกว่า ส่วนสไตล์การเล่นหุ้นของนายพรคง เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ตนเองจะจะมองหุ้นมีพื้นฐานดี มีราคายังไม่สูงเท่าที่ควรจะเป็นและยังไม่เป็นที่รู้จัก และมีหลักการเลือกลงทุน มี 3 ข้อดังนี้
1.มองเศรษฐกิจมหาภาคในช่วงเวลานั้นว่ามีสภาพอย่างไร
2.ศึกษาในรายอุตสาหกรรมที่มีแวรุ่งในช่วงนั้น
3.ศึกษาด้านการเงินในตัวบริษัทที่เราสนใจลงทุน
แม้ นายพรคง ปัญญางาม จะเริ่มหุ้นขณะยังศึกษาอยู่ แต่ก็กล่าวว่าการใช้เวลาในการหาข้อมูลเพื่อลงทุนนั้นไม่ได้ทำให้เสียการเรียน เวลาที่ใช้ก็เป็นเวลาที่คนอื่นอาจนำไปใช้ทำงานอดิเรกอื่นๆที่ต่างกัน แต่เขาใช้ในการศึกษาและลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และความรู้ที่ได้ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนได้
นายพรคงทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำสำหรับผู้สนใจเข้ามาสลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ขณะนี้ว่า "ตอนนี้ภาวะตลาดราคาหุ้นสูง ควรดูหุ้นที่มีพื้นฐานดีราคาเหมาะสมกับค่าตอบแทนในอนาคตและควรลงทุนด้วยเงินเย็น ไม่ใช่เงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คนที่คิดว่าการเล่นหุ้นนั้นได้เงินง่ายและเร็วนั้นควรเข้าใจว่ามีความเสี่ยงด้วย แต่ถ้าหาข้อมูลให้รู้ให้เข้าใจก็จะลดความเสี่ยงได้"
นายธีรชาติ ภู่ธำรงวัฒน์ อายุ 22 ปี นักศึกษาปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอีกคนที่เข้าวงการตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่อายุยังน้อย ได้ให้สัมภาษณ์กับประชาชาติธุรกิจว่า มีความสนใจตั้งแต่เด็กเนื่องจากคุณพ่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ตัวเองยังชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนอยู่แล้ว
นายธีรชาติ เล่าถึงจุดเริ่มต้นลงทุนว่า ในตอนแรกแค่ต้องการออมทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไป จึงเริ่มจากการซื้อกองทุนซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 15 ปี พออายุ 18 ปีก็ต้อเริ่มซื้อขายหุ้นเพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยให้คุณพ่อเปิดพอร์ตให้ ผลตอบแทนที่ได้ราว 40-50 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นที่น่าพอใจ โดยจะเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี ราคาไม่สูงมาก แต่สำหรับผู้ชอบซื้อหุ้นพื้นฐานดีมากๆ ราคาสูงก็ไม่ผิดอะไร เพราะแต่ละคนมีสไตล์ไม่เหมือนกัน
สำหรับคำแนะนำของมือใหม่หัดลงทุนว่าการลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่ด้วยเช่นกันต้องศึกษาให้เยอะ สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีความสนใจในตลาดหลักทรัพย์ แนะนำให้ลงทุนในกองทุนดัชนี จะได้ไม่ต้องค่อยติดตามข้อมูลบริษัท แต่ถ้าพร้อมศึกษาก็แนะนำการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า
ถือเป็นกรณีตัวอย่างเมื่อผู้คนสมัยนี้ให้ความสนใจกับการลงทุนมากขึ้นและแนวโน้มอายุของผู้สนใจก็มีอายุน้อยลงทำให้ผู้สำเร็จด้านธุรกิจที่มีอายุยังน้อยมีมากขึ้นจนกลายเป็นปรากฎการวัยรุ่นพันล้าน
′นักวิทย์ ฟิลิปปินส์′ เจ๋ง!! คิดค้น ′ข้าวสายพันธุ์ใหม่′ ปลูกในน้ำเค็มได้

ฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ทนต่อน้ำเค็ม ซึ่งจะช่วยให้ชาวนาสามารถปลูกข้าวบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เคยเป็นพื้นที่ไร้ประโยชน์ได้
นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) ใกล้กรุงมะนิลา อยู่ระหว่างการทดลองปรับปรุงพันธุ์ข้าวทนน้ำเค็มให้สมบูรณ์ ก่อนทดลองปลูกในพื้นที่ที่กว้างขึ้น โดยหวังว่าจะสามารถแจกจ่ายให้ชาวนาไปเพาะปลูกได้ภายใน 4-5 ปี ข้าวสายพันธุ์ใหม่นี้เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างข้าวป่าที่พบในน้ำกร่อยกับข้าวสายพันธ์หนึ่งที่ปลูกในสถาบันวิจัย จนได้ข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถขับเกลือที่ดูดจากดินเค็มออกสู่อากาศทางใบได้ ข้าวนับเป็นหนึ่งในสามของพืชที่เป็นอาหารสำคัญของโลก เคียงคู่ข้าวสาลีและข้าวโพด ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงมีการคิดค้นและพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่อง
′นักวิทย์ ฟิลิปปินส์′ เจ๋ง!! คิดค้น ′ข้าวสายพันธุ์ใหม่′ ปลูกในน้ำเค็มได้

ฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ทนต่อน้ำเค็ม ซึ่งจะช่วยให้ชาวนาสามารถปลูกข้าวบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เคยเป็นพื้นที่ไร้ประโยชน์ได้
นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) ใกล้กรุงมะนิลา อยู่ระหว่างการทดลองปรับปรุงพันธุ์ข้าวทนน้ำเค็มให้สมบูรณ์ ก่อนทดลองปลูกในพื้นที่ที่กว้างขึ้น โดยหวังว่าจะสามารถแจกจ่ายให้ชาวนาไปเพาะปลูกได้ภายใน 4-5 ปี ข้าวสายพันธุ์ใหม่นี้เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างข้าวป่าที่พบในน้ำกร่อยกับข้าวสายพันธ์หนึ่งที่ปลูกในสถาบันวิจัย จนได้ข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถขับเกลือที่ดูดจากดินเค็มออกสู่อากาศทางใบได้ ข้าวนับเป็นหนึ่งในสามของพืชที่เป็นอาหารสำคัญของโลก เคียงคู่ข้าวสาลีและข้าวโพด ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงมีการคิดค้นและพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่อง
อากาศร้อนกระตุ้นความเครียดพบคนกรุงเครียดสูงสุด

สธ. 15 เม.ย.- นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น นอกจากอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคที่พบได้บ่อยในฤดูร้อน เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ บิด อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ได้แล้ว อาจทำให้เกิดความเครียด ทั้งในคนปกติและผู้ป่วยโรคจิตเวชได้ โดยอากาศร้อนจะเป็นตัวกระตุ้นหรือเพิ่มความเครียดมากกว่าเดิม จากข้อมูลผลสำรวจสถานการณ์แนวโน้มความเครียดของคนไทย โดยกรมสุขภาพจิต จำนวน 12 ครั้ง ตั้งแต่ พ.ศ.2552-2555 ดำเนินการใน 16 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ปรากฏว่าพื้นที่คนไทยเครียดสูงสุดกระจายไปตามภาคต่างๆ โดย 7 ใน 12 ครั้งของการสำรวจ พบว่า กทม.เป็นพื้นที่พบผู้ที่มีความเครียดสูงมากที่สุด และอีก 5 ครั้งเป็นอันดับรอง
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในกลุ่มของผู้ป่วยจิตเวช คนในครอบครัวต้องสอดส่องดูแล อย่าให้ขาดยา หาวิธีคลายร้อน สร้างความเพลิดเพลิน ไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องจากสุรามีฤทธิ์โดยตรงกับสมอง และมีผลต้านฤทธิ์กับยาที่แพทย์รักษาเพื่อควบคุมอาการ ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการกำเริบได้ ทั้งนี้ ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย